
ตลอดหลายทศวรรษ Johnny Cash สื่อสารเรื่องราวของผู้ถูกลืมและผู้เจ็บปวดผ่านเสียงร้องอันหนักแน่นของเขา แต่ไม่มีบทเพลงใดกินใจและสะเทือนอารมณ์ได้เท่า Hurt ซึ่งกลายเป็นเสียงสุดท้ายก่อนเขาลาโลกไป
เรื่องไม่คาดคิด: เมื่อ Industrial Rock พบ Country ในแบบที่โลกไม่ทันตั้งตัว
การที่ Johnny Cash เลือกเพลง Hurt มาตีความใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะต้นฉบับและตัวตนของเขานั้นอยู่คนละขั้วทางดนตรี
Hurt: จุดเริ่มจาก Nine Inch Nails
เพลง Hurt เวอร์ชันเดิมเป็นผลงานของ Nine Inch Nails แนวอินดัสเทรียลที่เน้นซาวด์หนัก เกรี้ยวกราด และบรรยากาศด้านมืด
บทบาทของโปรดิวเซอร์ Rick Rubin
การเลือก Hurt มาทำใหม่ เกิดจากวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของโปรดิวเซอร์ Rick Rubin ที่กล้าเชื่อมโลกดนตรีต่างขั้วเข้าด้วยกัน
เจ้าของเพลงต้นฉบับคิดอย่างไร?
เจ้าของเพลง Hurt เองยังลังเล เขาคิดว่าการให้ Cash นำเพลงไปทำใหม่อาจเป็นเรื่องผิดที่ผิดทาง
การตัดสินใจที่ดูเป็นไปไม่ได้ครั้งนี้ ได้นำไปสู่การสร้างมิวสิกวิดีโอที่กลายเป็นผลงานชิ้นเอกให้โลกต้องจดจำ
เบื้องหลัง MV Hurt ที่กลายเป็นตำนาน
Hurt ไม่ได้เป็นแค่มิวสิกวิดีโอ แต่เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการทำงานที่หนักหน่วงและเต็มไปด้วยข้อจำกัด
แรงศรัทธาที่ผลักดันให้ MV Hurt ถือกำเนิด
Mark Romanek รู้ทันทีว่า Hurt คือผลงานที่เขา “ต้องทำ” จึงอ้อนวอนขอกำกับด้วยตัวเอง และยื่นข้อเสนอถ่ายให้ฟรี
ข้อจำกัดที่หล่อหลอมความยิ่งใหญ่ของ MV Hurt
ตารางถ่ายทำต้องเร่งรัดอย่างหนักเพราะอาการป่วยของ Cash ทำให้เวลาเหลือน้อยลงทุกวัน
- สุขภาพที่ทรุดโทรมของ Cash: สุขภาพของ Johnny Cash ในขณะนั้นเริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างยากลำบาก
- ความไม่สะดวกด้านสภาพอากาศ: อากาศหนาวเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำของ Cash
- เวลาบีบคั้น: พวกเขามีเวลาเพียงไม่กี่วันในการบันทึกผลงานทั้งหมด
สถานที่ถ่ายทำที่สะท้อนชีวิตจริง
บ้านและพิพิธภัณฑ์ร้างของ Cash ถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำ และมันสะท้อนความเสื่อมถอยของชีวิตได้อย่างจริงที่สุด
ผู้กำกับกล่าวว่า “ผมรู้ทันทีว่าสภาพที่พังทลายนี้คือสิ่งที่ซื่อสัตย์กับเรื่องราวของ Johnny มากที่สุด เช่นเดียวกับที่เขาเคยซื่อสัตย์ผ่าน กีตาร์โปร่ง คู่ใจของเขา”
พิพิธภัณฑ์ที่ปิดตายได้กลายเป็นตัวแทนชีวิตของ Cash ที่ผ่านทั้งความสำเร็จและความสูญเสีย
ภาพแทนความตายและความทรงจำของ Cash
มิวสิกวิดีโอ Hurt ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยภาพการแสดงของ Cash เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยภาพเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งถ่ายทอดอารมณ์ให้กับผู้ชมได้อย่างชัดเจน
ภาพที่เล่าเรื่องแทนคำพูดทั้งหมด
- ฉากโต๊ะอาหารที่เผยความโดดเดี่ยวของ Cash อย่างเจ็บปวด
- การตัดสลับวิดีโออดีตและปัจจุบันสร้างความสะเทือนใจอย่างมาก
- ภาพแผ่นเสียงที่แตก ล้มทับอดีตอันรุ่งโรจน์ของ Cash
- ฉากปิดฝาเปียโนเป็นสัญลักษณ์ของฉากสุดท้ายในชีวิตศิลปิน
อิทธิพลลึกซึ้งที่ส่งถึงคนในวงการดนตรี
ผลงานนี้ทำให้ทั้ง Rick Rubin และ Trent Reznor สะเทือนใจอย่างลึกซึ้ง จนถึงขั้นรู้สึกจุกในอกเมื่อเห็นอารมณ์ที่ Cash ถ่ายทอดออกมา
ความรู้สึกกังขาของ Reznor ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เขากล่าวว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนได้ดูภาพถ่ายของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว และตระหนักว่าบทเพลงนี้ไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นของ Johnny Cash โดยสมบูรณ์ ซึ่งนับเป็นการแสดงความเคารพขั้นสูงสุดที่ศิลปินคนหนึ่งจะมอบให้กับอีกคนได้
ชะตากรรมที่ตามมาอย่างน่าเศร้า
หลังการถ่ายทำเสร็จเพียงไม่นาน เหตุการณ์จริงที่ตามมาก็ทำให้เพลง Hurt กลายเป็นบทสรุปชีวิตของ Cash อย่างน่าเศร้า
- June Carter สิ้นลม: ภรรยาสุดรักจากไป 3 เดือนหลังถ่ายทำ
- เขาจากไปอย่างสงบ: Johnny Cash เสียชีวิต 7 เดือนต่อมา
- โศกนาฏกรรมซ้ำ: บ้านที่ Cash อาศัยกว่า 30 ปีถูกไฟเผา
บทส่งท้ายที่อยู่เหนือกาลเวลา
"Hurt" ในเวอร์ชันของ Johnny Cash ไม่ใช่แค่เพลงคัฟเวอร์ธรรมดา แต่มันได้กลายเป็นคำประกาศสุดท้ายและบทสรุปชีวิตของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ความซื่อตรงและความเปราะบางที่เขาแสดงออกมาในวิดีโอนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นบทสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบของ "บุรุษในชุดดำ" ผู้ซึ่งร้องเพลงเพื่อผู้ยากไร้และผู้ถูกลืมมาโดยตลอด
“Hurt” กลายเป็นบทส่งท้ายทางดนตรีที่ทรงพลังที่สุดเพลงหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเป็นผลงานที่ทำให้โลกได้มองเห็นหัวใจของ Cash ใกล้ที่สุด
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- How Johnny Cash Changed Music
- The Sad Story Behind Johnny Cash’s Hurt
- สารคดี | Johnny Cash "บุรุษชุดดำ ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่????????|คันทรี่ผู้ยิ่งใหญ่"[????????????????????????????????-????????]